ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง มีข้อดี คือ กันความร้อนได้ดีมาก ราคาถูก สะท้อนแสงได้ดี    ติดฟิล์มกรองแสง อาคาร   ให้ความเป็นส่วนตัว แต่มีข้อเสีย คือ จะมีการสะท้อนแสงทำให้อาจจะรบกวนบ้านฝั่งตรงข้ามได้ และทัศนวิสัยเมื่อมองจากภายในไม่ชัดเจน เหมาะกับบ้านที่ต้องการฟิล์มกันแดดติดกระจกบ้านราคาถูก แต่กันร้อนได้ดี
ฟิล์มดำ คือฟิล์มกรองแสงที่เคลือบด้วยสารต่าง ๆ ทำให้มีสีดำเข้ม สามารถป้องกันแสงสว่างได้ดี ลดรังสี UV และอาการแสบตา ถ้าจะติดฟิล์มดำ ต้องมั่นใจว่าติดฟิล์มดำที่ความเข้มที่เหมาะสม (40/60/80) ไม่เช่นนั้น ห้องก็จะมืดเกินไปได้ ซึ่งจะอธิบายอย่างละเอียดในหัวข้อถัดไป
ฟิล์มใส เป็นฟิล์มที่ใส แต่เน้นการป้องกันรังสีความร้อนโดยเฉพาะ ไม่บดบังทัศนวิสัย กันรังสีความร้อน รังสีUV ได้ดี เหมาะสำหรับร้านค้า ร้านอาหาร โชว์รูม ที่ต้องการโชว์ของหน้าร้าน แต่ถ้าจะเน้นกันร้อนสูง ฟิล์มใส แต่จะกันร้อนสู้ฟิล์มดำหรือฟิล์มปรอทไม่ได้
ฟิล์มเซรามิค เป็นฟิล์มกรองแสงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ใช้เทคโนโลยีนาโนเซรามิคในการเคลือบฟิล์มกรองแสง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากใน 3-5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นเรื่อง ดำเข้มจากภายนอก คมชัดจากภายใน หรือในบางครั้งเราก็เรียกฟิล์มประเภทนี้ง่าย ๆ ว่า “ฟิล์มดำนอกสว่างใน” ฟิล์เซรามิค สามารถกันความร้อนได้สูงมากอีกด้วย นั่นจึงทำให้ฟิล์มเซรามิค ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และยังเป็นที่นิยมสำหรับการติดฟิล์มบ้าน ฟิล์มคอนโดมากอีกด้วย เนื่องจากสะท้อนแสงน้อย สามารถติดได้ทุกที่ ราคาไม่สูงมาก
รู้ความเข้มฟิล์มติดอาคารที่ต้องการ 40/60/80
เนื่องจากฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลากหลายความเข้ม ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มเข้ม 40/60/80 และฟิล์มใส ซึ่งแต่ละความเข้ม เหมาะสำหรับห้องชนิดไม่เหมือนกัน และ ที่สำคัญต้องดูทิศทางของแสงแดดด้วยประกอบด้วย อาทิ

แนะนำความเข้มฟิล์มกรองแสงที่40% สำหรับ ห้องรับแขก ห้องทานข้าว หรือคอนโดสูง ทำให้ดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
ฟิล์มกรองแสงความเข้ม 60% เหมาะสำหรับ ห้องที่อยู่ที่ทิศตะวันตก ที่แสงแดดเข้ามาตลอดทั้งบ่าย อาจจะต้องเลือกฟิล์มที่มาความเข้มกลาง ๆ เพื่อกันร้อนได้สูง
ฟิล์มติดกระจกบ้าน ความเข้ม 80% ผมแนะนำติดห้องนอน ที่อยากได้ความมืด ความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้แสงเข้ามาก 
ฟิล์มปรอทวันเวย์ ความเข้ม 80% เหมาะสำหรับ ห้องที่อยู่ชั้นล่างสุด ติดถนนหรือทางเดิน ไม่อยากให้ใครมองเข้ามาข้างในเห็น ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด